Want to have your first condo? How to plan your finances for beginners

post date  Posted on 23 Nov 2025   view 16
article

อยากมีคอนโดหลังแรก? วิธีวางแผนการเงินฉบับมือใหม่

เริ่มต้นอย่างไรให้คุ้มค่า ไม่พลาด และเลือกห้องได้ตรงใจที่สุด

สำหรับใครที่กำลังคิดจะ “ซื้อคอนโดอยู่เอง” เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ใหญ่พอ ๆ กับการเลือกเส้นทางชีวิต เพราะคอนโดไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นทั้งภาระผ่อนระยะยาว ความสะดวกสบาย ไลฟ์สไตล์ และความสุขประจำวันของคุณตลอดหลายปี

บทความนี้จะช่วยให้คุณวางแผนการซื้อคอนโดอย่างเป็นระบบ เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะมากสำหรับ มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ และอยากเลือกคอนโดที่ “คุ้มค่าและเหมาะกับตัวเองจริง ๆ”

1. ตั้งงบก่อนหาโครงการ — ขั้นตอนแรกที่ช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุด

มือใหม่จำนวนมากเริ่มจาก “เดินดูโครงการก่อน” แล้วมารู้ทีหลังว่างบไม่พอ ทำให้เสียเวลาและเสียความรู้สึกโดยไม่จำเป็น ดังนั้นให้เริ่มจากงบประมาณก่อนเสมอ

วิธีคำนวณงบคร่าว ๆ ที่ปลอดภัย

  • ผ่อนคอนโด ไม่เกิน 30–35% ของรายได้ต่อเดือน
     
  • มีเงินสำรองฉุกเฉินประมาณ 3–6 เดือน ก่อนตัดสินใจซื้อ
     
  • อย่าลืมเผื่อค่าตกแต่ง ห้องเปล่าก็อาจต้องเพิ่ม 100,000–300,000 บาท
     

ตัวอย่าง

รายได้ 25,000–30,000 บาท/เดือน
→ คอนโดราคาเหมาะสมประมาณ 1.5–2.5 ล้านบาท

ตั้งงบก่อน จะช่วยให้คุณตัดตัวเลือกที่เกินกำลังออกได้ทันที

2. เลือกทำเลให้ตรงไลฟ์สไตล์ — อยู่เองต้อง “สะดวกจริง” ไม่ใช่แค่สวย

สำหรับมือใหม่ การซื้อคอนโดอยู่เองควรพิจารณาจาก “ชีวิตในแต่ละวัน” มากกว่ากระแสหรือความฮิตของทำเล

ทำเลที่ดีสำหรับอยู่เองควรมีอะไรบ้าง?

  • เดินทางสะดวก ใกล้ BTS / MRT / ทางด่วน
     
  • ใกล้ที่ทำงาน ลดเวลาเดินทาง = ลดความเหนื่อยทั้งปี
     
  • มีร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เช่น 7-Eleven, ห้าง, ตลาด
     
  • บรรยากาศปลอดภัย ไม่เปลี่ยวตอนกลางคืน
     
  • ไม่แออัดเกินไป หากต้องการความสงบและความเป็นส่วนตัว
     

เคล็ดลับมือใหม่

ไปดูทำเล “จริง” ทั้งตอนกลางวัน–กลางคืน คุณจะเห็นภาพชัดเจนว่าบรรยากาศเหมาะกับการอยู่จริงไหม

3. เลือกแบบห้องให้เหมาะกับการใช้งานจริง

การอยู่คอนโดไม่เหมือนอยู่บ้าน เพราะพื้นที่จำกัดมากกว่า ดังนั้นการเลือก Layout ดี ๆ จะทำให้คุณใช้ชีวิตสบายขึ้นมาก

แบบห้องที่ควรรู้สำหรับมือใหม่

  • Studio — ราคาถูกสุด แต่ค่อนข้างแคบ
     
  • 1 Bedroom — เหมาะกับคนทำงาน อยู่สบาย แยกห้องนอน
     
  • 1 Bedroom Plus — มีห้องอเนกประสงค์เพิ่ม เหมาะกับ Work from home
     
  • 2 Bedroom — อยู่กับครอบครัวเล็ก ๆ ได้
     

วิธีเลือกแปลนห้อง

  • ตำแหน่งห้องไม่ติดลิฟต์หรือห้องขยะ
     
  • ห้องไม่โดนแดดบ่ายทั้งวัน
     
  • มีหน้าต่างรับลม อากาศไหลเวียนดี
     
  • ห้องครัวแยก ลดกลิ่นอาหาร

4. เช็กค่าส่วนกลางและ Facility ให้ดี — ใช้จริงไหม คุ้มค่าหรือเปล่า?

มือใหม่มักมองข้ามจุดนี้ แต่จริง ๆ แล้วมีผลต่อค่าใช้จ่ายรายเดือนโดยตรง

รายการที่ต้องเช็ก

  • ค่าส่วนกลาง (คอนโดส่วนใหญ่เก็บ 40–80 บาท/ตร.ม.)
     
  • สระว่ายน้ำ / ฟิตเนส
     
  • Co-working Space
     
  • ระบบความปลอดภัย เช่น CCTV, เจ้าหน้าที่ 24 ชม.
     
  • จำนวนลิฟต์และจำนวนยูนิต (มีผลต่อความแออัด)

ถ้าโครงการ Facility ดีแต่ยูนิตน้อย ถือว่าคุ้มมาก

5. ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนโอนจริง

อย่าดูแค่ “ผ่อนธนาคาร” เพราะค่าซื้อคอนโดมีหลายรายการที่มือใหม่มักไม่รู้ เช่น

ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม

  • เงินดาวน์
     
  • ค่าจอง + ค่าสัญญา
     
  • ค่าตกแต่ง
     
  • ค่าจดจำนอง
     
  • ค่าธรรมเนียมโอน
     
  • ค่าประกันอาคาร
     
  • ค่าส่วนกลางรายปี

ข้อมูลเหล่านี้โครงการสามารถแจ้งให้คุณได้ก่อนเซ็นเอกสารทุกอย่าง

6. เปรียบเทียบหลายโครงการก่อนตัดสินใจ

อย่าตัดสินใจจากห้องเดียวที่เข้าไปดูครั้งแรก แม้จะดู “ถูกใจ” เพียงใดก็ตาม เพราะอาจมีตัวเลือกที่ดีกว่าในงบเดียวกัน

สิ่งที่ควรเปรียบเทียบ

  • ราคา/ตร.ม.
     
  • ทำเล
     
  • Facility
     
  • จำนวนยูนิต
     
  • แปลนห้อง
     
  • ความน่าเชื่อถือของ Developer
     
  • ความสะดวกหลังเข้าอยู่จริง

โครงการที่คุ้มที่สุดคือโครงการที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ไม่จำเป็นต้องแพงสุด

7. เช็กโครงการให้ละเอียดก่อนเซ็นสัญญา

สำหรับมือใหม่ ต้องดูให้ครบทั้ง “กฎหมาย + โครงสร้าง + เอกสาร”

สิ่งสำคัญที่ต้องดู

  • ใบอนุญาตก่อสร้าง
     
  • วันกำหนดสร้างเสร็จ
     
  • เงื่อนไขคืนเงิน
     
  • สิ่งที่โครงการให้จริง เช่น เฟอร์นิเจอร์ / เครื่องใช้ไฟฟ้า
     
  • ขนาดห้องตามโฉนด (ต้องตรงกับที่ตกลง)

8. ทดลองอยู่ในพื้นที่ก่อนซื้อจริง (Tip ลับของคนซื้อคอนโดเป็นครั้งแรก)

ถ้าทำได้ แนะนำให้ลอง

  • เช่าอยู่ในทำเลที่สนใจก่อน
     
  • หรือใช้เวลาในละแวกนั้นสัก 1–2 วัน

คุณจะเห็นสภาพการจราจร ร้านค้า เสียงรบกวน และความปลอดภัยชัดเจนขึ้นมาก

ยกตัวอย่าง “คำนวณการเงิน” สำหรับมือใหม่

📌 ตัวอย่าง: คอนโดราคา 2,000,000 บาท

✔ เงินดาวน์ 10%

= 200,000 บาท
ผ่อนดาวน์ประมาณ 24 เดือน
→ ตกเดือนละ ~ 8,300 บาท

✔ ยอดกู้ธนาคาร = 90%

= 1,800,000 บาท

✔ ผ่อนหลังโอน

ใช้อัตราผ่อนประมาณ
6,500 บาท ต่อ 1 ล้านบาท

ดังนั้น
1.8 ล้านบาท × 6,500 =
ผ่อนประมาณ 11,700 บาท/เดือน

✔ ค่าใช้จ่ายวันโอน (ประมาณ)

  • ค่าธรรมเนียมโอน 1% = 20,000
     
  • ค่าจดจำนอง 1% = 20,000
     
  • ค่ามิเตอร์ไฟ / น้ำ = 2,000
    โดยรวมประมาณ = 42,000 บาท

✔ ค่าส่วนกลาง

สมมติ 35 ตร.ม. × 60 บาท = 2,100 บาท/เดือน

📌 รวมค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังอยู่จริง

ผ่อนแบงก์: 11,700
ค่าส่วนกลางเฉลี่ย: 2,100
ค่าน้ำไฟ: 1,000–1,500
รวมประมาณ = 14,800–15,300 บาท/เดือน

ซื้อคอนโดอยู่เองให้คุ้ม ต้อง “วางแผนก่อนเสมอ”

การซื้อคอนโดอยู่เองไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณวางแผนให้ดีตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะเรื่องงบ ทำเล แปลนห้อง และค่าใช้จ่ายหลังเข้าอยู่

✔ ตั้งงบประมาณให้ชัด
✔ เลือกทำเลที่สะดวกกับชีวิตจริง
✔ เปรียบเทียบหลายโครงการก่อนตัดสินใจ
✔ เช็กค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ครบ
✔ เลือกแปลนห้องที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

เมื่อเตรียมพร้อมอย่างเป็นระบบ คุณจะได้คอนโดที่ “อยู่สบาย คุ้มค่า และไม่เป็นภาระในระยะยาว

Related articles (3)