WeChat ID :
คำศัพท์ที่ควรรู้เกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ เพราะตอบโจทย์ทั้ง การลงทุนเพื่อผลตอบแทน และ การถือครองทรัพย์สินที่มีโอกาสเพิ่มมูลค่า ในระยะยาว แต่หลายครั้งเวลาศึกษาข้อมูลโครงการหรือฟังคำแนะนำจากที่ปรึกษา กลับเต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ ทำให้ตัดสินใจได้ยากหรืออาจพลาดโอกาสสำคัญไปแบบไม่รู้ตัว
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ คำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แบบง่ายที่สุด
“Asset” หมายถึงสิ่งที่มีมูลค่าและสามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต เช่น คอนโด บ้าน หรือที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง จึงเหมาะกับคนที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
ROI คืออัตรากำไรที่ได้จากการลงทุน โดยเทียบกับต้นทุนที่ใช้ไป
ตัวอย่าง:
Yield คือผลตอบแทนที่มาจาก “ค่าเช่าอย่างเดียว” โดยทั่วไป คอนโดใกล้รถไฟฟ้ามักมี Yield อยู่ราว 4–7% ยิ่งสูงยิ่งโดดเด่น
กำไรที่เกิดจากราคาทรัพย์สินเพิ่มขึ้น เช่น
ปัจจัยที่ช่วยให้มูลค่าเพิ่มเร็ว เช่น
คือเงินที่เหลือจริงหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น
ค่าเช่า – ผ่อนธนาคาร – ค่าส่วนกลาง – ภาษี
คือเปอร์เซ็นต์ของราคาทรัพย์ที่ธนาคารยอมปล่อยกู้
ตัวอย่าง: คอนโดราคา 3 ล้าน ได้กู้ 90% → กู้ได้ 2.7 ล้าน
LTV มีผลกับเงินดาวน์ และความสามารถในการซื้อของผู้ลงทุน
นิยมมากในหมู่นักลงทุน เพราะ
เหมาะสำหรับการเก็งกำไรหรือขายใบจอง แต่ต้องเลือกทำเลที่มีศักยภาพจริง ๆ
วันที่ผู้ซื้อชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด และรับห้องจากโครงการ นักลงทุนสายปล่อยเช่ามักคำนวณจุดนี้อย่างละเอียด เพราะมีผลต่อดอกเบี้ยและรายได้
Freehold = ถือครองได้ถาวร ขายต่อได้ง่าย
Leasehold = สัญญาเช่า 30–50 ปี ราคาไม่สูงมาก แต่ขายต่อยากกว่า
เหมาะกับคนที่ต้องการทำเลดีในงบจำกัด
พื้นที่ที่ลูกบ้านใช้ร่วมกัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Co-working space ส่วนกลางดีช่วยเพิ่มโอกาสปล่อยเช่า และดึงดูดผู้ซื้อได้มากขึ้น
ค่าบริหารและดูแลส่วนกลางของโครงการ โครงการที่ส่วนกลางเยอะ มักมีค่าบริการสูงตาม นักลงทุนต้องคิดเป็นต้นทุนเสมอ
คือห้องที่ยังขายไม่หมด ซึ่งมักต่อรองได้ และบางครั้งลดราคาหลักแสน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการห้องพร้อมอยู่หรือพร้อมปล่อยเช่า
นักลงทุนปล่อยเช่ามักเลือก Fully Furnished เพราะปล่อยเช่าได้ง่ายกว่า
บางโครงการเสนอรายได้การันตี เช่น 5–7% ต่อปี เหมาะกับผู้ที่ต้องการรายได้แน่นอนโดยไม่ต้องบริหารเอง
แต่ควรอ่านสัญญาให้ละเอียดว่าคุ้มค่าหรือไม่
พื้นที่ที่มีแนวโน้มมูลค่าเพิ่มในอนาคต เช่น
เลือกทำเลถูกจุด จะทำให้ทั้งราคาขายและราคาเช่าโตเร็วมาก
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากความรู้ที่ยากเลย เพียงเข้าใจคำศัพท์พื้นฐานเหล่านี้ คุณก็สามารถ
✓ วิเคราะห์ข้อมูลโครงการได้ด้วยตัวเอง
✓ ประเมินผลตอบแทนได้แม่นยำมากขึ้น
✓ เลือกทรัพย์ที่ตรงกับเป้าหมาย
✓ ลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาด
หลายคนเริ่มต้นจากความรู้เพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเข้าใจภาษาของโลกอสังหาริมทรัพย์แล้ว การตัดสินใจซื้อเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุนก็จะง่ายขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้นในระยะยาว