กู้ซื้อคอนโดให้ผ่านง่าย ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

post date  โพสต์เมื่อ 8 พ.ย. 2568   view 9
article

กู้ซื้อคอนโดให้ผ่านง่าย ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

การกู้ซื้อคอนโดถือเป็นเป้าหมายสำคัญของใครหลายคนที่อยากมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานหรืออยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่พอถึงเวลาจริง หลายคนก็มักจะสงสัยว่า กู้ซื้อคอนโดยังไง? หรือกู้ซื้อคอนโดจะผ่านไหม? เพราะขั้นตอนดูซับซ้อนและต้องเตรียมเอกสารมากมาย ยิ่งถ้าเป็นกู้ซื้อคอนโดครั้งแรกหรือกู้ซื้อคอนโดเอง ก็อาจกังวลว่าจะไม่ผ่านง่าย ๆ แต่จริง ๆ แล้ว การกู้ไม่ยากอย่างที่คิด หากรู้เทคนิคและเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่แรกก็สามารถทำให้การกู้ซื้อคอนโดกลายเป็นเรื่องง่ายได้เลย

 

กู้ซื้อคอนโดทําอย่างไร

สำหรับใครที่สงสัยว่ากู้ซื้อคอนโดต้องทํายังไง หรือกู้ซื้อคอนโดยังไงให้ผ่าน ขั้นตอนแรกคือการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ ควรเริ่มจากการประเมินรายได้และภาระหนี้สินที่มีอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถผ่อนได้ตามเงื่อนไขของธนาคารโดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำในชีวิตประจำวัน

หลังจากนั้นควรเลือกคอนโดที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ โดยทั่วไปธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้ประมาณ 80–90% ของราคาประเมิน ดังนั้นหากคอนโดราคา 2 ล้านบาท คุณต้องมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10–20% หรือราว 200,000–400,000 บาท และเตรียมเอกสารการยื่นกู้ให้ครบ เช่น สลิปเงินเดือน สำเนาทะเบียนบ้าน สัญญาจองคอนโด เป็นต้น

อย่าลืมเช็กประวัติทางการเงิน (เครดิตบูโร) ของตัวเองก่อนยื่นกู้ด้วย เพราะธนาคารจะตรวจสอบข้อมูลนี้เสมอ หากคุณมีประวัติค้างชำระหรือหนี้เสีย อาจส่งผลต่อโอกาสในการกู้ผ่านได้ ดังนั้นการวางแผนและเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้กู้ซื้อคอนโดผ่านง่าย

 

กู้ซื้อคอนโดใช้เอกสารอะไรบ้าง

หลายคนมักสงสัยว่ากู้ซื้อคอนโดต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? หรือกู้ซื้อคอนโดต้องเตรียมอะไรบ้าง? การเตรียมเอกสารให้ครบเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะหากเอกสารไม่ครบหรือข้อมูลไม่ตรงกัน อาจทำให้การอนุมัติล่าช้าได้ มาดูเอกสารขอกู้ซื้อคอนโดที่ต้องเตรียมกันเลย

1. บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน (ฉบับสำเนา) – เพื่อยืนยันตัวตนและที่อยู่ของผู้กู้

2. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน – สำหรับพนักงานประจำ เพื่อยืนยันรายได้ที่สม่ำเสมอ

3. หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัท – ธนาคารจะใช้ข้อมูลนี้ประกอบการพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้

4. รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน – เพื่อดูพฤติกรรมทางการเงิน

5. สัญญาจะซื้อจะขาย หรือใบจองคอนโด – แสดงหลักฐานความตั้งใจที่จะซื้อจริง

6. ใบประเมินราคาคอนโดจากธนาคาร (หากมี) – ช่วยให้ธนาคารคำนวณวงเงินกู้ได้แม่นยำ

7. สำเนาหนังสือรับรองบริษัทและงบการเงิน (สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ)

การเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบตั้งแต่ต้นจะช่วยให้ขั้นตอนการยื่นกู้รวดเร็วขึ้น และลดปัญหาการส่งเอกสารซ้ำ ๆ ที่ทำให้เสียเวลา

 

กู้ซื้อคอนโด ขั้นตอนมีอะไรบ้าง

หลายคนอาจไม่แน่ใจว่าขั้นตอนการยื่นกู้ซื้อคอนโดต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูแบบเข้าใจง่ายทีละขั้นตอนกันเลย

1. เลือกคอนโดที่ต้องการซื้อ – ควรเลือกทำเลและโครงการที่เหมาะกับงบประมาณ รวมถึงคอนโดที่ธนาคารมีโปรโมชั่นร่วมด้วย จะช่วยให้การกู้ผ่านง่ายขึ้น

2. ติดต่อธนาคารเพื่อประเมินวงเงินกู้ – ธนาคารจะช่วยคำนวณวงเงินที่สามารถกู้ได้จากรายได้ของคุณ

3. ยื่นเอกสารขอกู้ – ส่งเอกสารครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนด

4. ธนาคารตรวจสอบและประเมินราคาคอนโด – ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินราคาจริงของคอนโด เพื่อกำหนดวงเงินกู้ที่เหมาะสม

5. รอผลอนุมัติ – โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 7–14 วัน หรือบางธนาคารอาจจะเร็วกว่านั้น

6. ทำสัญญากู้และโอนกรรมสิทธิ์ – เมื่อได้รับอนุมัติจะมีการทำสัญญาและนัดโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน

การเข้าใจขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการกู้ซื้อคอนโดได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่พลาดรายละเอียดสำคัญระหว่างทาง

 

กู้ซื้อคอนโดคุณสมบัติ ต้องมีอะไรบ้าง

ก่อนยื่นกู้ สิ่งที่ต้องตรวจสอบคือ กู้ซื้อคอนโดดูอะไรบ้าง? เพราะธนาคารจะพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้กู้หลายด้าน ซึ่งหากคุณไม่เข้าเกณฑ์ อาจถูกปฏิเสธได้ง่าย ๆ ซึ่งคุณสมบัติพื้นฐานของผู้กู้ ได้แก่

1. อายุผู้กู้ – โดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้กับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมระยะเวลากู้แล้วต้องไม่เกิน 65–70 ปี เช่น หากคุณอายุ 30 ปี สามารถกู้ได้สูงสุดราว 35 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร

2. รายได้ขั้นต่ำ – ส่วนใหญ่ต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน หากรายได้สูง โอกาสกู้ผ่านและได้วงเงินสูงก็มีมากขึ้น

3. อายุงาน – ธนาคารมักต้องการเห็นประวัติการทำงานอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี

4. เครดิตทางการเงินดี – ไม่มีหนี้ค้างชำระหรือประวัติค้างบัตรเครดิต เพราะธนาคารจะตรวจสอบเครดิตบูโรทุกครั้ง

5. ภาระหนี้รวมไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน – เช่น รายได้ 30,000 บาท ภาระหนี้รวมไม่ควรเกิน 12,000 บาท เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าคุณสามารถผ่อนชำระได้จริง

เมื่อคุณมีคุณสมบัติครบตามนี้ การกู้ซื้อคอนโดจะผ่านไหม ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

กู้ซื้อคอนโดต้องมีเงินเท่าไหร่

คำถามยอดฮิตของคนที่กำลังจะซื้อคอนโดคือ กู้ซื้อคอนโดต้องมีเงินเท่าไหร่? คำตอบคือขึ้นอยู่กับราคาคอนโดและวงเงินที่ธนาคารอนุมัติ โดยทั่วไปธนาคารจะปล่อยกู้ประมาณ 80–90% ของราคาประเมิน หมายความว่าคุณต้องมีเงินดาวน์ประมาณ 10–20%

ตัวอย่างเช่น

  • คอนโดราคา 2,000,000 บาท
  • ธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ 90% = 1,800,000 บาท
  • ผู้กู้ต้องมีเงินดาวน์ 200,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องเตรียม เช่น

  • ค่าจดจำนองประมาณ 1% ของวงเงินกู้
  • ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 2% ของราคาประเมิน
  • ค่าประกันอัคคีภัยและค่าประกันชีวิต (ตามที่ธนาคารกำหนด)

ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ควรคํานวณกู้ซื้อคอนโดล่วงหน้าให้รอบคอบ โดยใช้เครื่องมือคํานวณเงินเดือนกู้ซื้อคอนโดจากเว็บไซต์ธนาคาร เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อน รวมถึงศึกษารายละเอียดของดอกเบี้ยสินเชื่อ เพราะแต่ละธนาคารมีอัตรากู้ซื้อคอนโด ดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน หากเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสม คุณจะสามารถผ่อนสบายและประหยัดดอกเบี้ยได้ในระยะยาว

 

กู้ซื้อคอนโดกับธนาคารไหนดี

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว หลายคนมักจะถามว่า กู้ซื้อคอนโดธนาคารอะไรดี? หรือกู้ซื้อคอนโดกับธนาคารไหนดี? ซึ่งจริง ๆ แล้วแต่ละธนาคารมีจุดเด่นต่างกัน เช่น

  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) – ดอกเบี้ยคงที่ช่วงแรกต่ำ เหมาะกับผู้ซื้อบ้านหรือคอนโดหลังแรก
  • ธนาคารกสิกรไทย – มีโปรโมชั่นสำหรับคนทำงานบริษัท พร้อมบริการยื่นกู้ออนไลน์
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ – มีโปรแกรมผ่อนสบายและระยะเวลาผ่อนนาน
  • ธนาคารกรุงศรีฯ / กรุงเทพฯ / กรุงไทย – ให้บริการครบวงจรและอนุมัติไว

โดยทั่วไปแล้ว การยื่นกู้ใช้เวลาประมาณ 7–14 วัน ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนของเอกสารและขั้นตอนการตรวจสอบของธนาคาร ดังนั้นควรเตรียมเอกสารให้พร้อมตั้งแต่ต้นเพื่อให้การพิจารณาเร็วขึ้น

 

สรุปกู้ซื้อคอนโดดีไหม

การกู้ซื้อคอนโดไม่ใช่เรื่องซับซ้อนหรือยากเกินไป เพียงแต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านเอกสาร การเงิน และคุณสมบัติส่วนตัว สำหรับใครที่สงสัยว่า กู้ซื้อคอนโดดีไหม? คำตอบคือ “ดีแน่นอน” หากคุณมีเป้าหมายชัดเจน ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเป็นการลงทุนระยะยาว เพราะคอนโดสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้ แต่ถ้าคุณยังมีภาระหนี้สูงหรือรายได้ไม่มั่นคง ควรวางแผนเก็บเงินและจัดการเครดิตให้ดีเสียก่อน เพื่อให้กู้ซื้อคอนโดในรอบถัดไปได้อย่างมั่นใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)